วัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

สถานที่ตั้ง : วัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร อยู่ในเขตพระนครด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะเมือง เหนือบริเวณป้อมเพชร ในพื้นที่ หมู่ 1 ถ.อู่ทอง ใน ต.หอรัตนไชย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

ประวัติ : สร้างโดยพระบรมมหาชนกของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 เมื่อตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อว่า "วัดทอง" ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2310 พม่าได้ยกกองทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาแตก วัดทองก็ถูกพม่าทำลายกลายเป็นวัดร้างมานานถึง 18 ปี กระทั่งเมื่อ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงปราบดาภิเษก และสร้างกรุงเทพมหานครเป็นราชธานีแล้ว ต่อมาใน พ.ศ.2328 ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์วัดทองที่ถูกทิ้งร้างมาตั้งแต่กรุงแตกใหม่ทั้งอาราม โดยมีกรมพระราชวังบวรมหาสุร สิงหนาท พระอนุชาได้ทรงร่วมปฏิสังขรณ์ และก่อสร้างพระอุโบสถ พระเจดีย์ และหมู่กุฏิทั้งหมดด้วย พร้อมพระราชทานนามใหม่ตามชื่อของพระราชบิดา(ทองดี)และพระราชมารดา(ดาวเรือง) ว่า "วัดสุวรรณดาราราม" โดยเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร รองจากพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิด ราชวรมหาวิหาร รัชกาลต่อมาแห่งราชวงค์จักรี ได้บูรณะปฏิสังขรณ์วัดสุวรรณดารารามต่อมาเป็นลำดับ มีการก่อสร้างพระวิหาร เจดีย์ กำแพงแก้ว และปูชนียสถานอื่นๆภายในพระอารามแห่งนี้ นับ เป็นพระอารามแห่งราชวงศ์จักรีโดยแท้

ลักษณะสำคัญ : พระอุโบสถ วัดสุวรรณดาราราม คือ ยังคงสภาพความเป็น โบสถ์แบบสมัยอยุธยาตอนปลาย แม้จะสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 ตัวโบสถ์จะตกท้องช้าง คือ ทำส่วนฐานโค้งอ่อนลงตรงกลางคล้ายปากเรือสำเภา หน้าบันอุโบสถสลักลาย เป็นรูปนารายณ์ทรงครุฑ มีภาพจิตรกรรมฝาผนังเทพชุมนุมที่ผนังอุโบสถตอนบน ตอนล่างเขียนเรื่องเวสสันดรชาดก เตมีย์ชาดกและสุวรรณสามชาดก ผนังด้านหน้าพระประธานเขียนภาพมารวิชัย มีแม่พระธรณีบีบมวยผมอยู่ตรงกลาง ขณะที่พระประธานในพระอุโบสถ รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้จำลองขยายส่วนจากพระแก้วมรกต

จิตรกรรมฝาผนัง ในพระอุโบสถ

จิตรกรรมฝาผนัง : พระวิหาร สร้างในสมัยรัชกาลที่ 4 ภายในมีภาพจิตกรรมฝาผนังที่งดงาม เป็นภาพ จิตรกรรมสมัยรัชกาลที่ 7 ซึ่งโปรดให้ พระยาอนุศาสจิตรกร (จันทร์ จิตรกร) เป็นผู้วาด เมื่อปี พ.ศ. 2474 ตามข้อมูลฯของสมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เป็นภาพเขียนเรื่องราวพระราชประวัติสมเด็จพระนเรศวรตั้งแต่พระเยาว์จนสวรรคต โดยมีภาพยุทธหัตถีที่เป็นภาพเอกอยู่เหนือประตูด้านหน้า ใช้เทคนิคการวาดแบบตะวันตกมาประยุกต์ใช้กับจิตรกรรมฝาผนัง เป็นภาพสีน้ำมันเสมือนจริงทั้งหน้าตา ร่างกาย กล้ามเนื้อ สัดส่วน และเครื่องแต่งกาย นับเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังอันงดงามและแปลกใหม่สำหรับยุคนั้น กรมศิลปากรได้ถ่ายแบบภาพเขียนนี้ไว้ และเป็นต้นแบบของภาพในอนุสรณ์ดอนเจดีย์ ที่สุพรรณบุรีอีกด้วย ส่วนพระประธานภายใน เป็นพระพุทธรูปปางมาวิชัย ซึ่งสร้างในสมัยรัชกาลที่ 4